Le Cordon Bleu โลโก้

ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

ปรับปรุงข้อมูลครั้งสุดท้าย: 16/04/2022

 

1.    วัตถุประสงค์และขอบเขต
       บริษัท เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จำกัด (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้วางใจมอบให้บริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และรับประกันสิทธิของบุคคลที่จะได้รับการคุ้มครองเกี่ยวกับการรวบรวม การใช้ การจัดเก็บ การเปิดเผย และการลบข้อมูลส่วนบุคคล (“การดำเนินการ”) เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และสินทรัพย์ภายใต้มาตรการความปลอดภัย บริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ลูกจ้าง ลูกค้า ผู้มาติดต่อ บุคคลภายนอก หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง (“ท่าน”) ที่เข้ามาในบริเวณที่มีการรักษาความปลอดภัยทั้งด้านในและโดยรอบอาคาร และในหลากหลายพื้นที่ (“บริเวณ”) ของบริษัทผ่านอุปกรณ์กล้องวงจรปิด

บริษัท เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จำกัด
4, 4/5 อาคารเซ็นทรัลทาวเวอร์ ชั้น 19 ถนนราชดำริ แขวงปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร: 02 237 8877
อีเมล: customerservices@dusit.com
ข้อมูลติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล:
โทร: 02 237 8877 ต่อ 1903
อีเมล: suchada.st@dusit.com

วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล:

  • เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต สุขภาพ และ ความปลอดภัยส่วนบุคคลรวมถึงทรัพย์สินของท่าน
  • เพื่อสร้างการคุ้มครองสถานที่และทรัพย์สินจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายของทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น ๆ
  • เพื่อให้การสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อขัดขวาง ป้องกัน ตรวจค้นและดำเนินคดีต่าง ๆ ตามกฎหมาย
  • เพื่อช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาททางศาล กระบวนการทางวินัย หรือการร้องทุกข์
  • เพื่อช่วยในการสอบสวนหรือการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
  • เพื่อสนับสนุนการก่อตั้งสิทธิหรือยกให้เป็นข้อต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมายซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะคดีแพ่งและคดีแรงงาน
  • เพื่อยืนยันตัวตนของคุณและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้
      “ฐานกฎหมาย” หมายถึง เหตุผลอันสมควรในการประมวลผลข้อมูส่วนบุคคลตามมาตรา 24 และ มาตรา 26 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้:
  • ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย: บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อรักษาความปลอดภัย ดูแลทรัพย์สินของบริษัทฯ และตรวจสอบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่
  • ภาระผูกพันตามกฎหมาย: บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัตตามกฎหมายในกรณีที่เกิดอาชญากรรมหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายใน หรือโดยรอบอาคารและสถานที่ ตามที่หน่วยงานของรัฐร้องขอ หรือเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

2.    บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้านใดบ้าง
       บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลเพื่อระบุตัวตนซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะบันทึกภาพ บันทึกภาพเคลื่อนไหว และบันทึกเสียง

3.    บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้อย่างไร
      
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางกล้องวงจรปิดโดยตรง

4.    บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาใช้อย่างไร
       บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการดำเนินการและสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบโดยยึดหลักกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
       บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์และขอบเขตที่กล่าวไว้ข้างต้น หากเกิดกรณีที่ต้องนำข้อมูลส่วนบุคคลมาประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านใหม่เพื่อกรณีนั้น

5.    การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อองค์กรภายนอก
       บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อองค์กรภายนอกและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือตามกฎหมายบังคับใช้ที่ผูกพันต่อบริษัทฯ องค์กรภายนอก อาจหมายรวมถึง:

  • หน่วยงานราชการรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น อัยการ หรือ พนักงานสอบสวน
  • บริษัทที่ให้บริการด้านกล้องวงจรปิด

      ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งต่อให้องค์กรภายนอก บริษัทฯ รับรองว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลน้อยที่สุดและใช้เทคนิคการปกปิดตัวตนและการใช้นามแฝงเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามองค์กรภายนอกที่จะประมวลผลข้อมูลของท่าน จะต้องมีนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้องค์กรภายนอกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ต่างไปจากขอบเขตและจุดประสงค์ที่ได้รับความยินยอม

6.    การโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
       ในขั้นตอนการประมวลผล บริษัทฯ ไม่ส่งต่อหรือโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องวงจรปิดไปยังต่างประเทศ

7.    มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
       บริษัทฯ ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน องค์กรภายนอกต้องปฏิบัติตามการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายของบริษัทฯ และรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

8.    ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
       บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 30 วันตามขอบเขตและวัตถุประสงค์รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์สำคัญอื่น ๆ เช่น ตามที่กฎหมายบังคับใช้ เพื่อการตรวจสอบด้านการเงินและบัญชี

9.    สิทธิของเจ้าของข้อมูล
       สิทธิต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังต่อไปนี้:

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล – ท่านมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดและตรวจสอบกระบวนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
  • สิทธิในการโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคล – ในกรณีที่ระบบของบริษัทฯ รองรับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยระบบอัตโนมัติ:
    • ท่านมีสิทธิร้องขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังองค์กรอื่นโดยอัตโนมัติได้
    • ท่านมีสิทธิร้องขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังองค์กรอื่นโดยตรง ยกเว้นในกรณีที่มีข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยี
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม – ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลาตามฐานกฎหมาย รวมถึง:

    • งานสาธารณะหรือผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
    • วัตถุประสงค์ทางการตลาดโดยตรง
  • สิทธิในการขอให้ลบข้อมูล – ท่านมีสิทธิขอให้ลบทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ในกรณีดังต่อไปนี้:
    • เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลไว้เพื่อประมวลผล
    • เมื่อท่านระงับความยินยอม
    • เมื่อเกิดการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล
    • เมื่อการประมวลผลข้อมูลไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบังคับใช้
  • สิทธิในการขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – ท่านมีสิทธิในการขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ในกรณีดังต่อไปนี้:
    • อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลตามที่มีการร้องขอ
    • ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องถูกลบหรือทำลายแต่ได้รับการร้องขอให้ระงับแทน
    • ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาแต่ท่านได้ร้องขอให้จัดเก็บไว้เพื่อใช้ตามเหตุผลทางกฎหมาย
    • อยู่ในระหว่างการพิสูจน์การปฏิเสธคำขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง – ท่านมีสิทธิที่จะแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน หากตรวจพบข้อผิดพลาด บริษัทฯ ไม่อาจทำการแก้ไขข้อมูลเองได้

      ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการหรือใช้สิทธิของท่านรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะในกรณีที่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ท่านยังคงมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมโดยการส่งอีเมลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะต้องยุติกระบวนการประมวลผลทั้งหมดโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามการเพิกถอนจะมีผลต่อการประมวลผลข้อมูลที่เกิดขึ้นหลังจากการเพิกถอนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ที่ได้ดำเนินไปก่อนการเพิกถอนจะไม่สามารถยกเลิกได้

      ทางบริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฯ ได้ทำการบันทึกคำร้องขอทั้งหมดเอาไว้เพื่อให้แน่ใจว่าประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไข หากท่านมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของท่าน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

      ในกรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไปข้างต้น บริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอนี้อย่างปลอดภัยและทันเวลา

10.  การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
       บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ตลอดเวลาที่เห็นสมควร โดยจะแจ้งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทราบถึงการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาตรการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

TOP