10 ขนมเติมความหวานวันวาเลนไทน์
ใกล้จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว หลายคนคงกำลังมองหาขนมวาเลนไทน์อร่อย ๆ เพื่อมอบให้คนพิเศษในเทศกาลแห่งความรักนี้ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ก็ตามมาดูกันเลย
ฮาโลวีนเป็นช่วงเวลาแสนสนุกสำหรับคนหนุ่มสาวและคนที่มีความเป็นเด็กในหัวใจ สำหรับคนที่แกะสลักโคมไฟฟักทอง เรามักจะมีคำถามว่าจะทำอย่างไรกับเนื้อและเมล็ดฟักทองดี เพราะในการทำโคมไฟวันฮาโลวีน จะต้องคว้านไส้และตรงกลางของฟักทองออกแล้วนำไปทิ้ง แต่หากเราวางแผนสักนิดและเลือกฟักทองที่เหมาะสม ก็จะสามารถทำเมนูที่น่าตื่นเต้นและอร่อยได้จากเนื้อฟักทองนี้
ไม่ว่าจะเป็นซุป รีซอตโต เครื่องจิ้ม และพาย ก็สามารถทำมาจากเนื้อฟักทองได้ แต่หากเป็นเมนูของหวานวันฮาโลวีนแสนสนุก ขอแนะนำเมนู ไอศกรีมแซนด์วิชฟักทองพร้อมเมล็ดฟักทองย่างกรุบกรอบ จาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ออสเตรเลีย
เทคนิคที่จะทำให้ขนมออกมาสมบูรณ์แบบ คือการใช้ฟักทองที่ดีที่สุดสำหรับโอกาสนี้ ฟักทองสีส้มเป็นพันธุ์ที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการทำโคมไฟฟักทอง (jack-o’-lantern) แต่ฟักทองชนิดนี้มีเนื้อไม่มาก ขณะที่ฟักทองสายพันธุ์ญี่ปุ่นสามารถนำมาแกะสลักได้ง่ายและยังนำมาทำเป็นอาหารแสนอร่อยได้ด้วย ฟักทองสายพันธุ์นี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าพันธุ์เคนต์ (Kent pumpkin) ซึ่งสามารถคว้านเนื้อและเมล็ดของมันมาทานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกนำไปใช้เป็นตะเกียงแล้ว เนื้อของมันจะมีรสชาติเหมือนถั่วและมีกลิ่นย่างแบบรมควัน
อย่าปล่อยให้เนื้อของตะเกียงฟังทองเหล่านี้เสียเปล่า มาเพิ่มความตื่นเต้นให้กับวันฮาโลวีนและใช้ฟักทองที่เหลือมาทำเมนูอร่อย ๆ ฉลองกัน!
ปริมาณจัดเสิร์ฟ: ไอศกรีมแซนด์วิชขนาด 8 เซนติเมตร จำนวน 10-12 ชิ้น
ผสมครีม น้ำตาล ไข่แดง และกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน เติมแป้งเพื่อทำเป็นโด
คลึงโดเป็นทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 80 มิลลิเมตร ห่อในฟิล์มพลาสติกแล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที
Tเตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 180 เซลเซียส นำโดออกจากพลาสติกห่อ
ตัดโดเป็นชิ้นขนาด 1-2 เซนติเมตร วางลงบนถาดอบที่มีแผ่นรองอบแบบมีเส้นหรือแผ่นอบคุกกี้ เว้นที่ระหว่างแต่ละชิ้น อบเป็นเวลา 10-15 นาที จนเป็นสีน้ำตาลทอง
นำออกจากเตาอบแล้วพักให้เย็นบนตะแกรง
เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปอกเปลือกฟักทอง หั่นเนื้อเป็นลูกเต๋าเล็กขนาด 1 เซนติเมตร ราดน้ำมันมะกอกเล็กน้อยแล้วนำไปวางแผ่บนถาดอบ 2 ถาด
อบฟักทองประมาณ 1 ชั่วโมง กลับด้านหนึ่งครั้ง จนเป็นสีน้ำตาลทองทั้งสองด้าน เวลาในการอบอาจต่างกัน จึงควรเช็คฟักทองหลังผ่านไป 20 นาที และปรับเวลาอบตามความเหมาะสม นำฟักทองออกจากเตาอบและพักให้เย็น
สำหรับส่วนผสมเครื่องเทศ: ผสมซินนามอน ขิง ลูกจันทน์ และออลสไปซ์ให้เข้ากัน ตวงเครื่องเทศ 1/2-1 ช้อนโต๊ะตามชอบ และพักไว้เพื่อทำเมนูต่อไป
ตีไข่แดง น้ำตาล และกลิ่นวานิลลาในชามผสม จนเป็นสีอ่อน ออกขาว
ต้มนมให้เดือดในหม้อก้นหนา จากนั้นตีในส่วนผสมไข่ไก่และน้ำตาลให้เข้ากันดี
นำส่วนผสมที่ได้ตั้งไฟอ่อนอีกครั้งแล้วคนต่อเนื่องด้วยช้อนไม้ จนส่วนผสมเคลือบที่หลังช้อน
กรองส่วนผสมผ่านกระชอนตาถี่ลงในชาม ใส่ครีมข้น ชิ้นฟักทองที่สุกแล้ว และส่วนผสมเครื่องเทศ ปั่นให้เข้ากันโดยใช้เครื่องปั่นแบบมือถือหรือเครื่องเตรียมอาหารจนเป็นเนื้อเดียวกัน
แช่แข็งโดยใช้เครื่องทำไอศกรีม หากไม่มีเครื่อง ให้เทส่วนผสมไอศกรีมลงในถาดอบขนมปังแถวขนาด 23 เซนติเมตร ซึ่งรองด้วยฟิล์มพลาสติก แล้วนำเข้าช่องแข็งเพื่อให้เซ็ตตัว
เมื่อไอศกรีมเซ็ตตัวแล้ว ให้แช่ในช่องแข็งเป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนจัดเสิร์ฟ
เทเมล็ดฟักทองลงบนถาดอบและย่างหรือปิ้งในเตาอบด้วยไฟกลางจนเมล็ดฟักทองเริ่มเป็นน้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นนำออกจากเตาอบและพักให้เย็น บดเมล็ดฟักทองในครกแล้วพักไว้
วางช็อตเบรดบิสกิตเป็นคู่ลงในถาดอบที่รองด้วยที่กระดาษรองอบ เพื่อทำเป็นฐานและด้านบนของไอศกรีมแซนด์วิช ตักไอศกรีมฟักทองลงบนบิสกิตหนึ่งชิ้น แล้วนำบิสกิตอีกชิ้นมาประกบด้านบน กดเบา ๆ เพื่อให้กลายเป็นรูปร่างแซนด์วิชและค่อย ๆ ดันให้ไอศกรีมไปถึงขอบของบิสกิต
นำไอศกรีมแซนด์วิชไปกลิ้งบนเมล็ดฟักทองย่างบดและเมล็ดป๊อปปี้ ให้ทั่วทุกด้าน โรยด้านบนด้วยน้ำตาลไอซิ่งเพื่อจัดเสิร์ฟ หากต้องการเก็บไว้ทานภายหลัง ให้นำใส่กล่องบรรจุอาหารพลาสติกศูนย์ยากาศแล้วแช่ในช่องแข็ง
Copyright © 2024 Le Cordon Bleu International B.V. All Rights Reserved.